สปริงเกอร์เชียงราย

การใช้น้ำของไม้ผล

ในภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทวีความรุนแรงขึ้น การกระจายตัวของฝนเปลี่ยนแปลงไป ฝนไม่ตกตามฤดูกาล  เกิดวิกฤตความแห้งแล้ง เป็นปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช น้ำเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญมากต่อการให้ผลผลิตของพืช การวางแผนจัดการน้ำให้เพียงพอต่อการใช้น้ำตามความต้องการของพืชในแต่ละช่วงอายุการเจริญเติบโต ช่วยลดปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำของฤดูการที่ไม่แน่นอนหรือการให้น้ำพืชไม่เพียงพอต่อความต้องการของพืชแต่ละชนิด การวางแผนการจัดการน้ำแบบยั่งยืน เช่น ติดตั้งระบบ สปริงเกอร์รดน้ำ ให้ครอบคลุมและสามารถเพิ่มลดการให้น้ำแก่พืชตามความต้องการของช่วงการเติบของพืชได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้ลดเวลาที่ใช้การรดน้ำ ประหยัดแรงงาน และไม่ต้องกังวลเรื่องฝนที่ไม่ตกต้องตามฤดูกาล

ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้น้ำของไม้ผล

  1. สภาพภูมิอากาศรอบๆ ต้นพืช ได้แก่ อุณหภูมิ ความชื้นของอากาศและความเร็วลม เป็นต้น
  2. ชนิดและอายุของไม้ผล พืชแต่ละชนิดมีความต้องการน้ำที่แตกต่างกัน พืชชนิดเดียวกัน การใช้น้ำจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเริ่มปลูกจนโตเต็มที่ จากนั้นจะค่อยๆ ลดลง
  3. ดิน ได้แก่ เนื้อดิน ปริมาณความชื้นในดิน ความสามารถในการอุ้มน้ำ
  4. องค์ประกอบอื่นๆ เช่น วิธีการใช้น้ำแก่พืชและความลึกที่ให้แต่ละครั้ง

จะให้น้ำแก่พืชครั้งละเท่าใด? เป็นการยากที่จะรู้ว่าจะให้น้ำแก่พืชมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ มีปัจจัยที่ส่งผลหลายอย่าง เช่น การใช้น้ำของพืช ความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน อัตราการซึมของดิน ซึ่งจะต้องใช้การคำนวณที่ยุ่งยากซับซ้อน มีหลากหลายวิธี

  • ปริมาณการใช้น้ำของไม้ผล

การคำนวณอย่างง่ายที่พอจะให้รู้ค่าการใช้น้ำของไม้ผลแบบง่ายๆ และสามารถนำไปใช้วางแผนจัดการน้ำได้ในระดับหนึ่ง ดังนี้

สูตร ET = Kp*Ep*ทรงพุ่ม/ประสิทธิภาพการให้น้ำ (ลิตร/วัน/ต้น)

เมื่อ ET = ค่าการใช้น้ำของไม้ผล (ลิตร/วัน/ต้น)

Kp = สัมประสิทธิ์การใช้น้ำของพืช [ดูในตารางที่ 1 หรือตารางที่ 1-1]

Ep = ค่าการระเหยที่ได้จากถาดวัดการระเหย (มม./วัน) [ดูในตารางที่ 2]

ทรงพุ่ม = พื้นที่ของทรงพุ่ม (ตารางเมตร)

คิดประสิทธิภาพการให้น้ำ 85%

หรือ คิดจากพื้นที่เพาะปลูก (ตารางเมตร)

ความต้องการน้ำของพืช = ET(มม./วัน)*ช่วงเวลาที่ต้องการให้น้ำ(วัน)*พื้นที่เพาะปลูก(ตรม.)

  • จะให้น้ำนานเท่าใด ให้กี่วัน/ครั้ง จะต้องพิจารณาเป็นกรณีๆ ดังนี้
  1. ถ้าเป็นการให้น้ำแบบผิวดิน จะต้องทราบ
    • อัตราการให้น้ำที่เหมาะสม (ลิตร/วินาที)
    • ระยะเวลาในการซึมน้ำของดิน (มม./ชม.)
    • ความลึกของน้ำที่จะให้ (มม.)
    • ปริมาณความสามารถอุ้มน้ำของดิน
    • ปริมาณการใช้น้ำของพืช
  2. ถ้าเป็นการให้น้ำแบบฉีดฝอยหรือ สปริงเกอร์รดน้ำ จะต้องทราบ
    • อัตราการให้น้ำแก่พืช (มม./ชม.)
    • อัตราการซึมน้ำของดิน (มม./ชม.)
    • ปริมาณการใช้น้ำของพืช(มม./ชม.)
    • ปริมาณความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน
  3. ถ้าเป็นการให้น้ำแบบหยด
    • ต้องรู้อัตราการใช้น้ำของพืช (ลิตร/วัน/ต้น)
    • ต้องรู้อัตราการให้น้ำของหัวปล่อยน้ำ (ลิตร/ชม.)
  • สำหรับการหาระยะเวลาการให้น้ำ

(กรณีน้ำหยด)

การหาระยะเวลาการให้น้ำ(ชั่วโมง) = ปริมาตรน้ำที่ต้องการ(ลิตร)/อัตราการให้น้ำ(ลิตร/ชม.)

(กรณีแบบฉีดฝอย)

การหาระยะเวลาการให้น้ำ(ชั่วโมง) = ความลึกของน้ำที่จะให้(มม.)/อัตราการให้น้ำ(มม./ชม.)

  • สำหรับการหารอบเวรการให้น้ำ

รอบเวรการให้น้ำ(วัน/ครั้ง) = ความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน(มม.)/ปริมาณการใช้น้ำของไม้ผล (มม./วัน)

  • สัมประสิทธิ์การใช้น้ำของพืช Kp
  • ปริมาณการระเหยน้ำ(Ep) จากถาดวัดการระเหยแบบเอ(Epan) เฉลี่ยรายเดือนสำหรับภาคเหนือ

หจก. สิริวรรณ แลนด์สเคป เอ็นจิเนียริ่ง

รับวางระบบสปริงเกอร์รดน้ำสวนหย่อมและการเกษตร พะเยา-เชียงราย

รับประกันงานระบบรดน้ำ 3 เดือน มีทีมงานบริการดูแลแนะนำให้คำปรึกษาอย่างต่อเนื่อง

ติดต่อสอบถาม/นัดจองคิว โทร : 064 979 6699

(สำรวจหน้างานฟรี!!! ออกแบบระบบ สปริงเกอร์รดน้ำ ฟรี!!!)

ดูรายละเอียด สปริงเกอร์รดน้ำ เพิ่มเติม คลิ๊ก