เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ส่วนใหญ่เป็นไม้อวบน้ำทนแล้ง กระจายพันธุ์ในทวีปอเมริกาใต้ มีอยู่ด้วยกันไม่ต่ำกว่า 3,300 ชนิด มีความหลากหลายด้านการเจริญเติบโตและรูปทรง หลายชนิดนิยมปลูกเป็ฯไม้ประดับที่เรียกกันว่า “สับปะรดสี” ลักษณะเด่นคือ ใบออกเวียนรอบต้น มีทั้งใบแคบ ใบกว้าง มีลายและไม่มีลาย กาบใบมักขึ้นซ้อนทับกันเพื่อเก็บกักน้ำไว้ตรงกลางยอด ผิวใบมีไทรโคม (trichome) ซึ่งเป็นขนสีขาวเทาปกคลุม หรือไม่มีขน แต่มีขี้ผึ้งเคลือบที่ผิวใบ เมื่อออกดอกยอดจะเปลี่ยนเป็นอีกสีหนึ่ง ช่อดอกเป็นช่อกระจุกออกจากกึ่งกลางต้น ภายในมีดอกเล็กๆ จำนวนมากและเป็นดอกสมบูรณ์เพศ หนึ่งดอกมีกลีบดอก 3 กลีบ มีหลายสี เช่น ขาว เหลือง ชมพู ม่วง เป็นต้น ผลมีทั้งผลมีเนื้อนุ่มหุ้มเมล็ดและเป็นฝักแห้ง เมื่อแก่แตกออก ภายในมีเมล็ดนำไปขยายพันธุ์ต่อได้ หลังออกดอกติดผลต้นเดิมจะค่อยๆ ตายไป แต่จะแทงหน่อใหม่แล้วเติบโตต่อไป

สับปะรดสีมีหลายสกุลมีใบสวยงาม เช่น คริปแทนทัส (cryptanthus) รีซี (Vriesea) และทิลแอนด์เซีย (Tillandsia) ซึ่งแต่ละสกุลก็มีผู้ทำลูกผสมแปลกฟ ออกมามากมาย ข้อดีของสับปะรดสีก็คือมีความหลากหลายและทนทาน ในต่างประเทศจัดเป็นไม้ประดับในบ้านที่แพร่หลาย แต่เมืองไทยส่วนใหญ่ใช้ปลูกในสวนหรือนอกบ้าน ส่วนใหญ่ชอบแสง แต่ไม่ชอบโดนแสงแดดจัดโดยตรง อาจต้องวางไว้ตามริมหน้าต่างหรือในสถานที่ใกล้กับหน้าต่างให้ได้รับแสงอย่างเพียงพอ เหมาะสำหรับการใช้งานเพียงชั่วคราว